บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระบรมราโชวาท

บทความนี้ เขียนเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์หนึ่ง พระนาม "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" พระราชาผู้มีจิตใจใสสะอาดบริสุทธิ์และไม่เคยละทิ้งประชาชน ท่านได้เสด็จสู่สวรรคาลัย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ในขณะนั้นข้าพเจ้ากำลังศึกษาอยู่ ณ ฮ่องกง ประเทศจีน ข้าพเจ้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้พบและได้เห็น ข้าพเจ้ามีความเชื่อเสมอว่า "ในหลวง" จะทรงพระพลานามัยแข็งแรง มีทีมแพทย์ที่คอยดูแลรักษา หารู้ไม่ว่าทีมแพทย์ที่ว่าเก่ง ไหนเลยจะเก่งกว่า "พญามัจจุราช" ท่านได้นำดวงพระวิญญาณไปสู่ที่ข้าพเจ้าไม่สามารถเอื้อมถึง อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้าเชื่อย่างยิ่งว่า "ในหลวง" ทรงเกิดเป็นพระราชาอีกครั้งบนสรวงสวรรค์ ก่อนจะนอนข้าพเจ้าสวดมนต์และภาวนา หากข้าพเจ้าเกิดตายในขณะที่ข้าพเจ้าหลับ หรือ ข้าพเจ้าจะไม่ได้ตื่นมาในวันพรุ่งนี้ ข้าพเจ้าขอเกิดและได้พบกับ "ในหลวง" อีกครั้ง ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

อารัมภบท มายืดยาว ใจความสำคัญของบทความนี้คือ พระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งที่อ่านแล้ว ได้สอนใจของข้าพเจ้าเป็นอย่างดี เนื้อความคือ

" การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือ ความอดทน คือ ไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือ ดูมันครึ ทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำดีไม่ครี ต้องมีความเพียรของตน ต้องถือว่าวันนี้เรายังทำไม่ได้ผล อย่าไปท้อ บอกว่าวันนี้เราทำแล้วก็ไม่ได้ผล พรุ่งนี้เราจะต้องทำอีก วันนี้เราทำ พรุ่งนี้เราก็ทำ อาทิตย์หน้าเราก็ทำ เดือนหน้าเราก็ทำ ผลอาจได้ปีหน้า หรือ อีกสองปีหรือสามปีข้างหน้า ความเพียรนี่หมายความว่าไม่ใช่ความเพียรในการทำงานเท่านั้นเอง หมายถึงความเพียรที่จะข่มใจตัวเองด้วย ความกล้าหาญที่จะข่มใจตัวเองให้อดทน ไม่ใช่อดทนแล้วก็เหมือนว่าใครทำก็ทำไป เราทนเอาไว้ เท่ากับคนอื่นเขาเอาเปรียบเรา ไม่ใช่อดทนที่จะยังไม่เห็นผล "อดทนที่จะทราบว่าสิ่งใดที่เราทำต้องใช้เวลา" ถ้าเราอดทน หรือถ้าพูดตามธรรมดาว่า "เหนียว" ไว้ อดทนในความดี ทำให้ดี เหนียวไว้ในความดีแล้ว "ภายภาคหน้าได้ผลแน่" "

คัดลอกมาจาก หนังสือเรื่อง เก้าสิบเก้าพระบรมราโชวาท น้อมนำราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

ความเพียร และ อดทนนี้เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จของพระเจ้าอยู่หัวของคนไทย

สิ่งที่ไม่ดีที่ข้าพเจ้าได้เคยทำไว้ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออดทนและจะไม่ปฏิบัติตนเหมือนเดิมกับความผิดซ้ำรอยที่ผ่านมา ข้าพเจ้าจดจำเสมอ เรื่องใดไม่แน่ใจ ให้เก็บไว้ จะทำในสิ่งที่ถูกต้องชัดเจน ตามคำสอนของพ่อหลวงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต การกระทำของข้าพเจ้า บางครั้งเหมือเป็นสีเทา ต่อไป ข้าพเจ้าจะทำให้เกิดเป็นสีขาว ให้สีเทากลายเป็นสีขาว การคิดถึงอดีตที่เคยทำแล้วเศร้าหมองใจ ไม่เกิดประโยชน์อันใด นอกจากความเศร้าหมอง ทำปัจจุบันวันนี้ให้ดีและเกิดประโยชน์สูงสุดจะดีกว่า

สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกราบขออโหสิกรรมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากว่าข้าพเจ้าเคยทำผิดด้วยกายกรรม วจีกรรม หรือ มโนกรรมด้วยเทอญ

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Hong Kong life

บางทีการอยู่กับปัจจุบัน ทำให้เรามีความสุขที่สุดแล้ว ไม่ต้องการให้คนเป็นห่วง หรือเป็นกังวลอะไรมากมาย ให้ธรรมะและการรู้ตัวเป็นอุปกรณ์ต่อสู้กับปัญหาของชีวิต เอาความอดทนและอดกลั้นเป็นธรรมะเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สิ่งที่ทำให้ได้เรียนรู้อยู่เสมอ

หลังจากผ่านช่วงวัยที่เรียกได้ว่าเป็นวัยรุ่น เราทุกคนเชื่อว่า เรานั้น "โต" พอที่จะคิดหรือตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ สามารถแก้ไขปัญหาและเรียนรู้จากวันวานที่ผ่านมาได้ แต่เมื่อได้โตขึ้นจนกระทั่งถึงวัยที่เรียกว่า "เบญจเพศ" จึงทำให้เรียนรู้มากขึ้นอีกว่า เรานั้นยังโตไม่พอ นี่คงไม่แปลกที่พ่อและแม่ของเรามักจะมองว่าเราเป็นเด็กอยู่เสมอ ณ สิ่งที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ สิ่งที่ผ่านเข้ามา ผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งคล้ายว่า สิ่งนั้นมันคือของจริง แต่สุดท้าย สิ่งนั้นคือความฝัน และไม่เคยเป็นของเรา และเรื่องราวในอดีตและวันวาน ยังคงทิ่มแทงจิตใจเราไม่รู้จักจบจักสิ้น ตอนนี้เมื่อถึงวัย "เบญจเพศ" สับสนกับคำว่า "ชีวิต"

เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่า ชีวิต ของเราต้องการอะไร เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่า ชีวิต ของเรา ดำรงอยู่แล้ว มีคุณค่าหรือประโยชน์อย่างไร ชีวิตของเรา ดำรงอยู่แล้ว เราสร้างอะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือเราใช้ชีวิตของเราเพื่อเผาผลาญสิ่งใดบ้าง ความหลงอยู่กับความสุขแค่ช่วงข้ามคืน และความหลงไปกับสิ่งที่คิดเอง และสิ่งที่เห็นเอง ทำให้คำว่า ชีวิต มีคุณค่าน้อยลง

หลังจากวันนี้เป็นต้นไป จะขอสาบานว่า จะทำ"ชีวิต" ให้สมกับที่เกิดมา และตายไปอย่างไม่เสียดาย จะทำเพื่อให้ชีวิตมีคุณค่า การสร้างประโยชน์ให้กับตัวเรา สิ่งหนึ่งที่ตระหนักแน่อยู่ในใจคือ การทำให้คุณพ่อและคุณแม่ได้อยู่ และ มีชีวิตที่มีความสุข และเห็นเราในวันที่เราได้ประสบความสำเร็จ มีครอบครัวที่น่ารักและสมบรูณ์ ถึงแม้ว่า มันคือความฝัน แต่ยังดีกว่าไม่มีความฝันใดๆ เลย เราจะทำงานที่เมืองนอก และทำให้คนต่างชาติได้เห็นว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่ดีกว่าประเทศใดๆ ในโลก เรามีศาสนาพุทธ และ อาหาร และคนที่มีคุณภาพ เราจะไม่ให้ใครมาดูถูกประเทศเรา

ตอบแทนคุณพ่อแม่ คูรอาจารย์ ประเทศ ขอให้ความตั้งใจนี้ประสบผลสำเร็จในเร็ววันนี้ ขอให้ความมุ่งมาดปรารถนาถดีของเรา สำเร็จ